วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564

"รัก" ที่เพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ วัน

 

29/06/2021


            


        














แฝดน้อยของหม่าม๊า .... ยิ่งอยู่ด้วยกันทุกวัน ยิ่งมีแต่ความรักมากมาย 

ตอนนี้ ลูกทั้งสองคนรู้เรื่องขึ้นมาก ๆ แล้ว เรียกได้ว่า เกือบจะบอกความต้องการทั้งหมดของตัวเองได้แล้ว

เพียงแต่ ยังพูดได้ไม่เหมือนเด็กโต แต่ความต้องการพื้นฐานของเค้า

ความอยากได้ อยากมี บอกเล่าความรู้สึกของตัวเอง ในจุดนี้เริ่มทำได้แล้ว


การเลี้ยงลูกในตอนนี้ มันเหมือนกับว่า ในทุก ๆ วัน เรากำลังดูต้นไม้ที่เราปลูก ผลิดอกออกผล

สิ่งที่เราเพียรพยายามเฝ้าสอนเค้ามาตั้งแต่เค้ายังพูดสื่อสารกับเราไม่ได้

ในตอนนี้นั้น มันกำลังออกผลให้เราได้ชื่นใจ...


บางสิ่งบางอย่าง เราสอนเค้านานมากแล้ว ตั้งแต่ช่วงอายุเจ็ดแปดเดือน

แต่อยู่ดีดี ในตอนนี้ เค้าก็พูดถึงสิ่งนั้นขึ้นมา ทำให้เราประหลาดใจอยู่บ่อย ๆ

หรือไม่ก็ ในบางครั้ง เค้าฟังเราคุยกับไมค์ แล้วเค้าก็เข้าใจ ว่าสิ่งที่เราคุยกัน หมายถึงอะไร รู้สึกยังไง

พอเค้าเจอเหตุการณ์หรือความรู้สึกนั้นกับตัวของเค้าเอง

เค้าก็สามารถพูดบอกเราได้ นี่คือสิ่งที่เราเพิ่งรู้ว่า ลูกรู้เรื่องมากขนาดนี้แล้วในวันนี้


.....


ในทุก ๆ วันของเราที่เลี้ยงลูก

มีแต่รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ฟังลูกพูด ลูกบ่น หรือแม้แต่เสียงเท้าของลูก ที่วิ่งบนพื้นห้อง

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับลูก มันทำให้เรามีความสุข (แต่กลิ่นอึ ไม่หอมนะ อิอิ)


ยิ่งลูกโตมากขึ้น เข้าใจสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น พูดสื่อสารกับเราได้

ความน่ารักของพวกเค้า ก็ยิ่งทวีคูณ....

เรามองหน้าเค้าทีไร ก็มักจะคิดในใจว่า ลูกน่ารักจัง

ปั้นมายังไงน๊อ... ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้ อิอิ


.....


สิบปี แห่งการรอคอยที่จะมีลูกของเรา

มาถึงวันนี้ ลูกสองคนเกือบจะอายุสองขวบแล้ว

เรารู้สึกว่า การรอคอยที่ผ่านมา มันคุ้มค่าจริง ๆ ... กับการมาเกิดของเค้าทั้งสงคน

เราชอบมองลูกและคิดบ่อย ๆ ว่า หม่าม๊ารอลูกนานมาก กว่าลูกจะมา ในที่สุด เราก็ได้มาอยู่ด้วยกันซักทีนะ


.....


ความเหนื่อยจากการเลี้ยงลูก การอดหลับอดนอน กินน้อย กิจกรรมส่วนตัวต่าง ๆ น้อยลง

มันทำให้เราท้อบ้าง ในบางครั้ง จนแอบหงุดหงิดใส่ลูกอยู่บ่อย ๆ

บางครั้งก็ถอดใจว่า ไม่เอาแล้ว คงไม่มีลูกอีกแล้วแหละ....


หลังจากเราเสียลูกสาวไปเมื่อเดือนกุมภาที่ผ่านมา และเสียพ่อด้วยในเดือนพฤษภาคม

เราก็คิดว่า คงพอแล้วแหละ น่าจะมีแค่แฝดสองคนนี้พอแล้ว

เพราะ อยากจะใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้มีความสุข เวลาของคนเรา สั้นมาก

เราไม่มีทางรู้เลยว่า วันพรุ่งนี้ เราจะยังมีกันและกันอยู่มั้ย

จึงอยากทำทุกวันให้มีความสุข ไม่ต้องทรมาณร่างกาย ไม่ต้องอดทำในสิ่งที่อยากทำ


แต่.... เลี้ยงลูกไปเลี้ยงลูกมา ความน่ารักที่พบเจอทุกวัน

มันก็ทำให้ เราอยากมีลูกอีกแล้วอ่ะ ห้าห้าห้า...

ความฝันที่อยากจะมีลูกสี่คน มันกลับมาอีกแย๊ว.....


หม่าม๊าเปิดสวิตซ์อีกรอบแล้วนะลูก .. มามะ มาอยู่ด้วยกันสิจ๊ะ

พี่แฝดรอแกล้ง เอ๊ย ไม่ใช่ พี่แฝดรอเล่นด้วยจ้า .. อิอิ


.....


Happy Tuesday ka ... :)


.....

วันจันทร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2564

ปะแป้งวันสงกรานต์กับสองแสบจอมยุ่ง

 13 / 04 / 2021


"สวัสดี ปีใหม่ไทย"

วันสงกรานต์ปีนี้ เราไม่ได้พาลูกไปเที่ยวที่ไหนเลย เพราะกลัว COVID มาก

เด็กเด็กจึงเล่นกันอยู่แต่ในบ้าน เราเลยจับแต่งตัว แล้วให้ลูกเล่นปะแป้งกันเอง



ปกติ ลูกสองคนชอบเล่นแป้งมาก เราแอบเอาให้เล่นบ่อย ๆ



แต่ป่ะป๊าจะคอยห้าม เพราะฝุ่นแป้งอาจทำให้เป็นภูมิแพ้ได้

ลูกปะแป้งกันเอง หัวเราะกันคิกคัก เรานี่... ถ่ายรูปเพลินเลย ^^







ลูกของเราทั้งสองคน เป็นเด็กอารมณ์ดี ยิ้มง่าย

ซึ่งถือเป็นความโชคดีของเรา เพราะเราเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปมาก ๆ

ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม ที่ได้ถือกล้อง และนิ้วมือได้กดชัตเตอร์

เราจึงมักจะได้รอยยิ้มของลูกมาเก็บไว้ทุกครั้งเลย ^^




ช่วงหลังนี้ลูกเริ่มรู้เรื่องเยอะมาก

พอถ่ายรูปเสร็จ จะรีบวิ่งมาที่กล้องเลย อารมณ์ประมาณว่า ขอเช็ครูปหน่อยหม่าม๊า :D
 






แอบเสียดายเหมือนกันนะ ที่ตอนนี้ วัยของลูก กำลังน่ารักเลย

เราอยากพาเค้าไปทะเลมาก ๆ พาไปเล่นน้ำทะเล ไปเล่นทราย

แล้วถ่ายรูปเก็บช่วงเวลาในตอนนี้ไว้ แต่ก็ไม่มีโอกาศ

ต้องรอให้สถานการณ์ COVID ดีขึ้นกว่านี้อีกหน่อย แล้วถึงจะพาไปได้

เสียดายเวลาที่เสียไปจังเลย เพราะ เราย้อนวัยของลูกกลับมาตอนนี้อีกไม่ได้แล้ว










สระว่ายน้ำที่คอนโดก็ปิด ส่วนกลางทั้งหมดของคอนโด ปิดหมด

นั่นหมายถึง พาลูกไปเดินเล่นที่ไหนไม่ได้เลย ทำได้เพียง เดินเล่นกันเองในห้อง

สงสารเด็กเด็กอ่า ที่ต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้




การอยู่บ้านเลี้ยงลูกทุกวัน ทั้งวัน ตลอด 24 ชม. เลย มันก็ทำให้เวลาผ่านไปไวเหมือนกันนะ

วันแต่ละวัน เผลอแป๊บ ๆ ก็หมดวันแล้ว




มองหน้าลูกทีไร ก็นึกในใจทุกครั้งเลยว่า ลูกเรา น่ารักจัง อิอิ

ใครจะมองว่าไม่น่ารักหรือยังไง เราไม่รู้

แต่ในสายตาของเรา เค้าสองคน น่ารักเสมอ ^^

ถึงแม้ จะมีงี่เง่าบ้าง (บ่อย ๆ ) 555




ใกล้จะ 2 ขวบแล้วอ่ะเนอะ

อารมณ์ต่าง ๆ ของพวกคุณคุณเค้า เริ่มเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ

ไม่พอใจอะไร เริ่มมีปากเสียง เริ่มมีอาการ แสดงออกมาให้เห็น

เดี๋ยวพอโตกว่านี้อีกซักนิด เราคงได้ปราบพยศกันอีกเยอะเลยแหละ

(ดูท่าจะหนักเอาเรื่องเหมือนกันนะ)


.....


Happy Songkran ka ... :)


.....

วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2564

พาเด็กเด็กไปกิน Sizzler

 23 / 03 / 21


วันนี้พาเด็กเด็กไปกินมื้อเย็นนอกบ้านอีกแล้ว ^^

ครั้งก่อนที่พาไปกิน Sizzler เราให้กินสปาเกตตี้กับสเต๊กไก่ย่าง

วันนี้เราตั้งใจจะให้ลองกินสปาเกตตี้กับซุปทูน่า ดูซิ ว่าจะกินกันรึเปล่า 



ปรากฎว่า เกินความคาดหมาย ทั้งสองคนชอบกินมาก ป้อนให้ช้า มีโวยวาย เร่งให้ป้อนเร็ว ๆ ด้วย

ลูกเราอ่ะ ไม่ค่อยชอบกินข้าวนะ ถ้าเป็นพวกเมนูเส้น จะปลื้มกันมาก เกี๊ยวก็ชอบ

ขนมปัง แพนเค้ก สปาเกตตี้ มักกะโรนี พวกนี้ ชอบกินหมดเลย



ต่างจากเรากับไมค์ ที่ไม่ค่อยชอบพวกนี้ซักเท่าไหร่ ชอบกินข้าวมากกว่า




เฮียวิณณ์ ผู้ซึ่งกินยากแสนยาก แต่ถ้ามื้อไหนได้ออกมากินข้าวนอกบ้าน

เฮียจะกินได้ปกติเลย เรียกว่า กินได้ในปริมาณที่แม่อย่างเราพอใจเลยแหละ




สำหรับน้องติณณ์ คนนี้เราไม่ค่อยห่วงซักเท่าไหร่

เพราะ เค้าค่อนข้างกินง่าย ป้อนอะไรให้ ก็อ้าปากกินตลอด 




ถ้าป้อนให้คำแรก แล้วเค้าชอบ คำต่อ ๆ ไปไม่ต้องเรียกเลย จะรอกินเลยแหละ

ถ้าคำแรกไม่ปลื้ม ก็จะไม่ค่อยอยากกินคำต่อ ๆ ไป แต่ถ้าเราป้อน เค้าก็จะฝืน ๆ กินให้ตามมารยาท :D




การพาลูกไปกินข้าวนอกบ้าน จึงทำให้เรา happy มาก

เพราะ เค้าจะยอมกินเยอะกว่าตอนอยู่ที่บ้าน




นี่ถ้าไม่มี Covid เราคงพาลูกออกจากบ้านทุกวันแน่นอน




เพราะเค้าสองคนก็ชอบไปเที่ยวมาก ๆ พอเราบอกให้เปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวป๊าจะพาไปข้างนอก

สองคนจะรีบให้เปลี่ยนชุดเลย แล้วก็คึกคักกันมาก

ยิ่งตอนจะใส่รองเท้าให้ วินาทีนั้น สั่งอะไร ทำตามหมด เพราะกลัวไม่ได้ไป ^^


.........


รักนะ แฝดน้อยของหม่าม๊า ^^

Happy Tuesday ka ... :)


..........






วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2564

การพาลูกไปกินข้าวนอกบ้านไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

 14 / 03 / 21

เดี๋ยวนี้เวลาไปกินข้าวนอกบ้าน ลูกลูก Happy กันมาก

ทุกอย่างเริ่มง่ายขึ้น กว่าเมื่อก่อน มากกกก...

เด็กเด็กสามารถนั่งอยู่บนเก้าอี้ของตัวเองในร้านอาหารได้นาน

















เราลองจับเวลาดู ครั้งล่าสุด นั่งได้จนเรากับไมค์กินอิ่มเลย ประมาณ 40 นาที

นั่งโดยไม่งอแง ไม่ร้องขอลุกจากเก้าอี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดี

เพราะ หากยังทำได้แบบนี้ทุกครั้ง เราจะไปกิน AKA แล้ว

คิดถึง AKA มว๊ากกกกกกก....... 😆

อย่างที่รู้ ๆ กันว่า การไปนั่งกินปิ้งย่าง อย่างน้อยต้องใช้เวลา 1 ชม.

ถ้าลูกให้ความร่วมมือดีแบบนี้ทุกครั้ง แม่ก็จะได้พาไปนั่งกินปิ้งย่างแล้ว 😋


วันนี้เราตั้งใจจะไปซื้อของที่กรูเม่ กินไอติม และกินข้าว

ช่วงที่นั่งโต๊ะอาหาร ไม่ค่อยมีปัญหา คึกคักสนุกสนานกันไปตามเรื่องตามราว


























เห็นช้อน เห็นแก้ว ก็จะหยิบจะจับ มาทำท่ากินข้าว ป้อนตัวเอง













































ในความรู้สึกของเรา มีลูก ก็เหมือนมีเพื่อนเล่นนะ

เค้าเหมือนเพื่อนคนนึงเลย ยิ่งตอนนี้เริ่มโตแล้ว เริ่มรู้เรื่องแล้ว 

ไปกินไอติม ไปกินขนม ไปกินข้าว ก็มีลูกกินด้วย สนุกดี ไม่ได้เหงา ๆ เหมือนตอนอยู่กับไมค์แค่ 2 คน



















เราเลี้ยงลูกเองกับไมค์แค่ 2 คน ไม่มีพี่เลี้ยงคอยช่วย

เวลาไปไหน ก็ไปกันแค่ 4 คนพ่อแม่ลูก

เราจึงมักได้รับคำชมบ่อย ๆ ว่า เก่งจังเลย เลี้ยงแฝดเอง ไม่ต้องมีคนช่วย

เพราะขนาดเค้า แค่คนเดียวยังเหนื่อยและวุ่นวายมาก ๆ

คำชมนี้ ได้ยินแทบทุกครั้งที่พาลูกออกไปกินข้าวนอกบ้าน

คนเป็นแม่แบบเรา ได้ฟังแล้วก็อดปลื้มปริ่มไม่ได้ ที่เราสามารถเลี้ยงลูกเองได้ตลอด 24 ชม. เลย

โดยที่ไม่ต้องมีคนคอยช่วย แอบภูมิใจในคำชมทุกครั้งเลย 🥰

























การพาเด็ก 2 คน ที่อายุ 1 ขวบนิด ๆ ออกไปนอกบ้าน โดยไม่มีคนช่วย

นั่นหมายถึงว่า เรากับไมค์ ต้องดูลูกกันคนละ 1 คน

บางคนมีลูกคนเดียว ก็จะผลัดกันอุ้ม ผลัดกันดูลูก ในเวลาที่อีกคนกินข้าวหรือเข้าห้องน้ำหรือซื้อของ

แต่สำหรับเรา ไม่ใช่เลย เราต้องรับหน้าที่เองเต็ม ๆ

ลูกร้อง ลูกเลอะเทอะ ลูกดิ้น งอแง นั่นคือ คุณไม่มีคนช่วยนะ เพราะอีกคนก็ดูลูกอีกคนอยู่

ทำเองหมดตั้งแต่ กางเก้าอี้กินข้าว เก็บเก้าอี้กินข้าว ป้อนข้าว ป้อนน้ำ เก็บกวาดสิ่งที่กินเลอะเทอะ

ตลอดจนเปลี่ยนแพมเพิร์ส ก็ต่างคนต่างทำกับไมค์ เพราะรอทำทีคนจะเสียเวลา

ในบางครั้ง ลูกแหกปากโวยวายโยเย ไม่ได้นั่งเรียบร้อยทุกครั้ง

พ่อแม่อย่างเราก็ต้องรับมือกันเองให้ได้กับอารมณ์ของเด็กในวัย 1 ขวบนิด ๆ

ซึ่งมันทำให้เราภูมิใจมากมาก กับการเลี้ยงลูกแฝดเอง ^^

เวลามีคนชมนี่ ยิ้มแก้มแทบปริเลยแหละ อิอิ 😙

























วันนี้ ลูกได้เห็นแตงโมเป็นลูก ๆ ครั้งแรกในชีวิต


























ตอนแรกก็ งง กัน ไม่กล้าจับ ได้แต่มอง ๆ แต่พอได้จับแล้วลูกแตงโมเย็น ๆ 

แถมยังมีน้ำแตงโมหวาน ๆ ให้กินด้วย คราวนี้หล่ะ พอขอแตงโมคืน ติณณ์โวยวายใหญ่เลย

























หม่ำ ๆ กันเสร็จ ก็ไปเดินซื้อของกัน

พอเดินซื้อของเท่านั้นแหละ เดี๋ยวนี้ไม่ง่ายแล้ว

เวลาเห็นอะไร ก็จะหยิบ จะจับ กันไปหมดซะทุกอย่าง

พอไม่ให้ก็ร้องโวยวาย พอให้ก็จับแป๊บ ๆ แล้วส่งคืน
























สัปดาห์ที่แล้วพาไป toy r us นะ .... อ่ะหือ.......

นี่ขนาดเพิ่ง 1 ขวบครึ่ง ยังแสดงอิทธิฤทธิในร้านของเล่นพอสมควรเลย

ไม่อยากจะคิดถึงตอนที่โตกว่านี้เลย ...... แม่อย่างเราคงได้คำรามขู่ลูกตลอดเวลาแน่ ๆ 🤣

























ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนยังไม่มี COVID คงดีกว่านี้เนอะ

การพาลูกออกไปนอกบ้าน ไม่ต้องคอยหวาดระแวงอะไร

ได้ไปเที่ยวกันบ่อย ๆ ไปนู่นไปนี่ได้ตามใจ คงจะดีมาก ๆ เลย

เด็กเด็กโตมาในช่วงนี้ ก็ได้แค่นี้แหละลูกเอ๊ย....

แค่ไปพารากอน แม่ยังแอบหวั่นใจเลย เมื่อไหร่น๊า... จะได้ใช้ชีวิตปกติซักที





















































































.....


รักน๊า... แฝดน้อยของหม่าม๊า

Happy Sunday ka.. :)


.....


วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564

พอลูกเริ่มโต แม่ก็เริ่มใจหาย

 12 / 03 / 21

คืนวันเสาร์ คือวันที่เรากับไมค์จะพาเด็กเด็กไปกินข้าวกับอากงอาม่า

สัปดาห์นี้เราไปกินข้าวที่สยามเซ็นเตอร์ ก่อนกลับ จึงให้เด็กเด็กเดินเล่นที่สยามดิสฯ แป๊บนึง

















เดี๋ยวนี้ลูกยอมให้เดินจูงมือแล้ว

ก่อนหน้านี้ไม่ยอมให้จับเลย พอเราจะจับมือเดิน จะสะบัดมือออกทันที





















แต่วันนี้เปลี่ยนไป ติณณ์เดินมาหา เอื้อมมือมาจับมือเราเองเลย

เริ่มโตขึ้นอีกนิดแล้วเนอะลูกเนอะ ^^





















ลูก 2 คน ค่อย ๆ โตขึ้นอีกนิดแล้ว จากที่ต้องคอยป้อนข้าวตลอด

เดี๋ยวนี้บางครั้งก็ไม่ยอมให้ป้อนแล้ว จะจับช้อนแล้วกินเอง

แอบใจหาย ... ที่ลูกเริ่มอยากทำอะไรด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งเราแล้ว 😅





















เวลาผ่านไป ลูกแม่ก็โตขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มช่วยเหลือตัวเองได้ทีละนิด ทีละนิด

คนเป็นแม่อย่างเรา ที่เฝ้าดูเค้าเติบโตตั้งแต่ยังเป็นไข่ในมดลูกของเรา จนปฏิสนธิเป็นเซลล์เล็ก ๆ

กระทั่งโตเป็นทารกในพุงของเรา วันแรกที่พวกเค้าลืมตาดูโลกหายใจด้วยจมูกของตัวเองเป็นครั้งแรก จนถึงวันนี้....

เราเฝ้ามองเค้ามาตลอด แล้วแบบนี้ จะไม่ให้รู้สึกใจหายได้ยังไงเนอะ ^^


“รักจังเลย” ลูกน้อยหอยสังข์ของหม่าม๊า ^^


.....


Happy Saturday ka.. :)

.....